ประโยชน์ของการทำหมันแมวเพศผู้และเพศเมีย
การทำหมันแมว เมื่อแมวเข้าถึงวัยเจริญพันธ์ุจะมีปัญหาที่เจ้าของมักเจอคือ แมวแอบหนีไปเที่ยวนอกบ้าน บางตัวหายตัวไปไม่กลับมาบ้านอีกเลย ฉี่กระจายทั่วบ้านเหม็นไปทั่ว แมวส่งเสียงร้องดังน่ารำคาญจนมีปัญหากับเพื่อนบ้าน จากการร้องหง่าว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุจากการที่แมวแสดงพฤติกรรมเป็นสัด แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดทำหมันแมว อีกทั้งยังเป็นวิธีดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่คุณหมอแนะนำสำหรับน้องแมวทุกตัว เพราะเป็นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของน้องแมวในระยะยาว จากงานวิจัยหลายๆงานพบว่า การทำหมันช่วยให้น้องแมวทั้งตัวผู้และตัวเมียมีอายุยืนยาวกว่าตัวที่ไม่ได้ทำหมัน โดยหากเจ้าของมีความรู้และความเข้าใจถึงการเตรียมตัวแมวก่อนทำหมันเช่น การทำวัคซีน การตรวจร่างกาย การตรวจเลือด และเอคโค่หัวใจ (คลินิกโรคหัวใจ) รวมถึงการดูแลแมวหลังการผ่าตัดทำหมันที่ถูกวิธี ก็จะทำให้น้องแมวมีความเสี่ยงในการวางยาสลบน้อยลง และลดข้อแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดทำหมันแมวได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น (การเตรียมตัวก่อนทำหมันแมวและการดูแลแมวหลังทำหมัน)
ประโยชน์ของการทำหมันแมว
1.น้องแมวตัวผู้ การทำหมันช่วยลดการสร้างอาณาเขตจากการฉี่ทั่วบ้าน ลดการบาดเจ็บ ก้าวร้าว การต่อสู้กัน ซึ่งจะส่งผลให้น้องแมวมีบาดแผล ติดเชื้อทั้งแบคทีเรีย รวมไปถึงติดเชื้อไวรัสร้ายแรง เช่น เอดส์แมว และลิวคีเมียได้ หรือน้องแมวแอบออกไปนอกบ้าน เกิดอุบัติเหตุทีไม่คาดฝัน และลดการเกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์ได้เช่น มะเร็งต่อมลูกหมากและอัณฑะได้อีกด้วย
2. น้องแมวตัวเมีย ลดพฤติกรรมการหนีเที่ยว ก้าวร้าว กัดกัน รวมถึงติดโรคจากการกัดกับแมวนอกบ้าน ลดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ควบคุมประชากร ลดพฤติกรรมการเป็นสัด ซึ่งส่วนใหญ่จะร้องหง่าว เสียงดัง รบกวนผู้อื่นได้ และลดการเป็นโรคระบบสืบพันธุ์ เช่น มดลูกอักเสบ รวมถึงมะเร็งเต้านมอีกด้วย โดยมีงานวิจัยพบว่า การทำหมันน้องแมวก่อนการเป็นสัดครั้งแรก สามารถลดการเกิดมะเร็งเต้านมได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ควรทำหมันแมวที่อายุเท่าไร
เพศผู้ อายุ 7-8 เดือนเป็นต้นไป โดยทั่วไปต้องรอให้อัณฑะเคลื่อนลงมาที่ถุงก่อน
เพศเมีย อายุ 4-5 เดือนสามารถเริ่มทำหมันได้เลย เพราะการทำหมันก่อนการเป็นสัดครั้งแรกจะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมได้เก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แต่หากแมวเคยผ่านการเป็นสัดมาแล้วแนะนำให้ผ่านการเป็นสัดไปก่อนประมาณ 2-3 สัปดาห์ (หลังจากหยุดร้องหง่าว) เพราะการผ่าตัดในช่วงเป็นสัดอาจทำให้เสียเลือดเยอะและแผลผ่าตัดกว้างกว่าปกติ สำหรับแมวที่เคยตั้งท้องมาก่อนให้คลอดลูกแล้วประมาณ 1-2 เดือนจึงพามาทำหมันได้ เพราะแมวสามารถเป็นสัดพร้อมผสมพันธ์ุได้อีกครั้งหลังจากคลอดลูกได้เพียงแค่ 1 เดือน ( แต่หากเจ้าของสามารถกักบริเวณไม่ให้แมวตัวผู้เข้ามาผสมพันธ์ุกับแม่แมวได้ จะให้ดีให้พาแม่แมวมาทำหมันตอนลูกแมวหย่านมแล้วที่อายุ 1.5 เดือนหลังคลอดจะดีกว่า เพราะหลังผ่าตัดแม่แมวอาจเจ็บแผลทำให้ไม่ยอมให้ลูกมากินนม ลูกอาจจะไม่แข็งแรงและเสียชีวิตได้)
วิธีการทำหมันแมวเพศผู้และเพศเมีย
สัตวแพทย์จะใช้วิธีการวางยาสลบหรือดมยาสลบเพื่อระงับความรู้สึกแล้วทำการผ่าตัด และต้องมีการให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดระหว่างการผ่าตัดด้วย เนื่องจากหากไม่ให้น้ำเกลืออาจทำให้มีภาวะไตวายตามมาได้หลังจากการผ่าตัด (คลินิกศัลยกรรม โรงพยาบาลสัตว์เจ้าพระยา อยุธยา)
– แมวเพศผู้จะทำหมันด้วยการเอาอัณฑะทั้งสองข้างออก แล้วจึงเย็บแผลที่ผิวหนังอัณฑะข้างนอก แต่สำหรับน้องแมวที่มีอัณฑะลงถุงแค่ 1 ข้างหรือไม่มีเลยสักข้างจะเรียกว่า “ ภาวะอัณฑะทองแดง” ควรให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกายด้วยการคลำสำรวจก่อนว่าอัณฑะที่ไม่ลงถุงนั้นอยู่ตรงส่วนไหน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่บริเวณขาหนีบหรือทางผ่านระหว่างขาหนีบถึงปลายอวัยวะเพศ แต่หากโชคร้ายน้องแมวมีอัณฑะที่ซ่อนอยู่ในช่องท้องจะคลำไม่เจอจากภายนอกต้องใช้วิธีการอัลตราซาวด์เพื่อระบุตำแหน่งแล้วจึงทำการผ่าตัดเปิดทางช่องท้องร่วมด้วย (ถ้าน้องแมวเป็นทองแดงแนะนำให้ผ่าตัดทำหมันก่อนอายุ 5 ปีเพราะจะมีโอกาสเสี่ยงจะเป็นมะเร็งของลูกอัณฑะที่ไม่ลงถุงมากขึ้นหากมีอายุมากกว่านี้ และไม่ควรให้น้องแมวตัวนี้เป็นพ่อพันธ์ุเพราะภาวะทองแดงสามารถถ่ายทอดไปให้ลูกแมวเพศผู้ได้เช่นกัน )
– แมวเพศเมียจะทำการผ่าตัดเอารังไข่ทั้งสองข้างและมดลูกออกทั้งหมด และจะทำการเย็บปิดช่องท้อง โดยหลังจากทำหมันแมวไม่ควรแสดงอาการเป็นสัดอีก แต่หากแมวยังมีอาการเป็นสัดอยู่ควรรีบพาน้องไปพบสัตวแพทย์ เพราะอาจจะเกิดจากการที่ทำหมันแล้วเอารังไข่ออกไม่หมด ซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาวเช่น เป็นสัดอยู่เลื่อยๆ เป็นมะเร็งเต้านม ฯลฯ และหากมีข้อสงสัยหรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดกับคุณหมอจากโรงพยาบาลสัตว์เจ้าพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เลยนะคะ
สพ.ญ.พนิดา โวหาร
สพ.ญ.วาทินี นาคประเสริฐ
โรงพยาบาลสัตว์เจ้าพระยา อยุธยา